งาน

<?php

โค้ดเปิดการสร้างข้อมูลของโปรแกรม php

$sql ="select * from student order by id asc ";

Select  หมายถึง เลือก

* หมายถึง เลือกทุกฟิลว์จากเทเบิล student

แล้วให้เรียงข้อมูลจากฟิลว์ชื่อ id ดยให้เรียงข้อมูลแบบ asc คือ การเรียงจากน้อยไปมาก

หากต้องการเรียงจากมากไปน้อยจะต้องใช้แบบ dasc

$query=mysql_query($sql) or die(mysql_error());

คือการประมวลผลคำสั่ง sql โดยใช้ฟังก์ชัน$query

Query  หมายถึง การประมวลผล

$num=mysql_num_rows($query);

mysql_num_rows คือ การเช็คข้างบนเร็คคอทว่าจากคำสั่ง sql ด้านบนมีกี่เร็ทคอท

echo $num;

การแสดงตัวแปรนำว่าค่าเท่าไหร่

?>

เครื่องหมายโค้ดที่แสดงถึงการจบโค้ดของ php

my if else
<?php
$score=77;
if($score<50){
echo 'grade 0';
}else if($score < 56){
echo 'grade 1';
}else if($score < 60){
echo 'grade 1.5';
}else if($score < 66){
echo 'grade 2';
}else if($score < 70){
echo 'grade 2.5';
}else if($score < 76){
echo 'grade 3';
}else if($score < 80){
echo 'grade 3.5';
}else if($score < 86){
echo 'grade 4';
}else if($score < 90){
?>

Maidreamin <<<< โลกแห่งความฝันกับน้องเมด

Maid Song

กระแสของ Maid มาโด่งดัง ก็เพราะ Anime ดังๆหลายเรื่องดึงเอา Maid ไปสร้างเป็นตัวละครเด่นๆ มากมาย และดึงเอาจุดเด่นตรงคำว่ารับใช้ มาเล่นกับกระแสตัวละครหนุ่มๆ ทำให้คนที่ดู Anime หลายคนก็ชอบกระแสแบบนี้ เพราะอยากจะให้มีสาวๆน่ารัก แต่งตัวแบบ Maid มารับใช้ด้วยแววตาปิ๊งๆอย่างใน Anime บ้าง

 

 

จนในญี่ปุ่นก็ได้มีการเปิดร้านประเภท Maid Cafe … ร้านกาแฟ ที่ซึ่งบริการด้วยสาวๆน่ารักๆในชุด Maid …พร้อมกับกิจกรรมและของที่ระลึกขายในร้านมากมายชนิดถูกใจคนคลั่ง Anime กันเป็นที่สุด และก็ได้สร้างวัฒนธรรมแบบใหม่ของร้านกาแฟ จนกลายเป็นกระแสโด่งดังทั่วโลก (สำหรับคนบ้าการ์ตูน) เรียกได้ว่า ใครที่ชื่นชอบการดู Anime แล้วได้ไปญี่ปุ่น ก็ต้องขอไปเหยียบ Maid Cafe กันซักครั้ง
ที่เรียกว่าหลายๆคนอยากจะเข้าไปเนี่ย ก็เพราะว่า การไปเป็นลูกค้าที่ Maid Cafe มันไม่เหมือนเข้าร้านกาแฟครับ เพราะทันทีที่คุณเข้าไปในร้าน น้องเมดสาวๆจะเข้ามาดูแลเหมือนคุณเป็น นายท่าน(โกจูจิน ซามะ) หรือ คุณนาย (โอโจ ซามะ) จริงๆนะครับ พร้อมกับกิจกรรมแปลกๆที่ออกมาเอาใจชายหนุ่มหลายอย่างกันเลยทีเดียวเชียวล่ะ

ที่ญี่ปุ่นเองก็มี ร้าน Maid Cafe ชื่อดังร้านหนึ่งชื่อว่า Maidreamin (อ่านว่า เมดดรีมมิ่ง) เรียกได้ว่าชื่อดังพอสมควรเพราะในญี่ปุ่นเองก็เปิดอยู่ถึง 13 สาขาด้วยกัน คราวนี้ก็มีคนไปซื้อแฟรนไชส์มาเปิดในประเทศไทยด้วย ซึ่งสาขาแรกอยู่ที่ Gateway เอกมัยครับ
Maidreamin สาขา Gateway เอกมัยก็พึ่งเปิดได้ไม่นาน ผมเองก็ได้อ่านรีวิวจากคนที่ไปกินก่อนหน้ามาอยู่หลายคน พบว่า มันมีกิจกรรมน่าสนใจหลายอย่าง แต่ผมขอเตือนก่อนนะครับ ถ้าคุณจะไปที่นี่ คุณต้องทำการเปิดใจกับวัฒนธรรมนี้ซักเล็กน้อยก่อนนะ ผมพูดจริงๆเลยนะ คนที่จะไปแบบจับผิด หรือ ไม่เปิดใจไป คุณจะไม่พบกับความสนุกใดๆที่นี่เลย

 

 ร้านอยู่ที่บริเวณชั้น M ข้างธนาคารไทยพานิชย์ครับ .. จะมีน้องเมดอยู่ที่หน้าร้านคอยทักทายแขกแล้วก็อธิบายเรื่องของ Maid Cafe ให้กับลูกค้าที่ผ่านไปมาอยู่

 

มีกฏเล็กน้อยในการเข้าเป็นลูกค้า กรุณาอ่านก่อนนะครับ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ 

• ห้ามถ่ายภาพร้านโดยที่ไม่ได้รับอนุญาติ (ที่ถ่ายเมนูมานี่ขอแล้วนะ อิอิ)
• ห้ามทำอะไรรบกวนลูกค้าท่านอื่น
• ห้ามสัมผัสตัวน้องเมด (ไม่งั้นคงมีลูกค้าหื่นหลายคนเชียวล่ะ)
• งดการให้ของขวัญน้องเมดเป็นการส่วนตัว (ห้ามจีบน้องเมดนั่นเอง)
• งดการสอบถามข้อมูลส่วนตัวของน้องเมด (ก็ห้ามจีบนั่นแหละ และน้องเมดที่ทำงานในร้านก็จะใช้ชื่อแทนตัวในการทำงานด้วยนะครับ เราไม่รู้ชื่อจริงๆน้องเค้าหรอก)
• ห้ามชวนน้องเมดไปทำกิจกรรมอื่น (อันนี้ก็มารยาทในการทำงานอยู่แล้วอ่ะนะ)

แล้วก็ ร้าน Maid Cafe น่ะ เป็นร้านแนวให้บริการ … เอ่อ ไม่ใช่บริการแบบที่คุณคิดนะครับ เป็นบริการประเภทดูแลแบบพิเศษดังนั้นลูกค้าที่มานั่งในร้านจะมีค่านั่งใน ร้าน (ซึ่งร้าน Maid Cafe จะเรียกว่าเป็นการเข้าสู่ดินแดนแห่งความฝันครับ) ราคาจะอยู่ที่

• 50 บาท / ชม / คน สำหรับที่นั่งปกติ
• 100 บาท / ชม / คน  สำหรับที่นั่ง VIP ชั้น 2

วันนั้น ผม @joyz , @pinnynoy และ @macroart  เรากะจะมานั่งที่นี่เพื่อเก็บข้อมูลมาเอาไปรีวิวกันอยู่แล้ว ก็เลยจัดตัวท็อป นั่งแบบ VIP กันไปเล้ยยยย
ซึ่งเมื่อเข้ามาในร้านแล้ว น้องเมดทุกคน (น่ารักชิปหาย) จะทักทายในร้านอย่างพร้อมเพรียงกันว่า ยินดีต้อนรับเข้าสู่ Maidreamin ค่าา (เมดโดะดรีมมิ่ง โยโกโสะ!!!) บรรยากาศในร้านก็จะเปิดเพลงอนิเมเป็นหลัก ใครชอบดูการ์ตูนนี่ท่าทางจะนั่งกันได้นานเลยล่ะครับ
โซน VIP อยู่ที่ชั้น 2 เป็นที่นั่งแบบโซฟาไฮโซหน่อย มีที่นั่งประมาณ 10 ที่นั่งครับ เมดที่ดูแลโต๊ะเราชื่อว่า ซายูริจัง … เมื่อเธอมาแนะนำตัวเสร็จแล้ว เธอก็จะบอกกับเราว่า

 

ถึงนายท่าน และคุณหนูคะ ต่อไปนี้เราจะเดินทางเข้าสู่โลกแห่งความฝันกันแล้วนะคะ เมื่อเทียนนี้ติดขึ้นแปลว่า เรากำลังจะเข้าสู่โลกแห่งความฝันกันแล้วนะคะ ขอให้นายท่านและคุณหนูมานับถอยหลังพร้อมกันนะคะ พอถึงตอนนี้ ถึงแม้ผมจะเขินนิดหน่อย แต่บอกตามตรงว่า ถ้าเราทำเป็นเขินแล้วไม่ทำด้วยกันล่ะก็ น้องเมดซายูริจังคงเสียกำลังใจเป็นแน่แท้ แล้วพวกเราก็นับถอยหลังเสียงดัง 1 2 3 .. จากนั้น ก็เข้าสู่โลกแห่งความฝันกับซายูริจังครับ

สำหรับคนที่นึกไม่ออกว่าเป็นยังไงลองดู Youtube ข้างบนนี้ได้ครับเป็นรายการทีวีที่ไปถ่ายทำที่ Maidreamin ที่ประเทศญี่ปุ่นครับ ผมดูแล้วกิจกรรมในการต้อนรับแขกจะเหมือนกันเลย แนวทางการให้บริการก็เหมือนกันครับ

 

จากนั้นซายูริก็จะมอบ Dreamin Passport ให้เราครับ ซึ่งก็จะถามชื่อแล้วก็เขียนชื่อที่เราอยากจะได้ลงไป พร้อมกับเติมคำเรียกลงไปด้วยอย่างของผมจะเป็น โก๋ซามะ .. หรือ นายท่านโก๋ นั่นเอง ฮ่าๆ

 ซึ่งเจ้า Dreamin Passport ก็จะเป็นบัตรชม Live ได้ 1 ครั้ง ถ้าอยากรู้ว่า Live เป็นยังไงก็ดู Youtube ข้างล่างนี่ได้เลยครับ

เมนูอาหารส่วนใหญ่จะมาพร้อม services จากน้องเมดเช่น ข้าวออมเล็ตที่จะมีน้องเมดมาวาดรูปบนไข่ให้ (บนไข่เจียวนะ อย่าคิดลึก!) หรือ Love Cocktail Reamin ก็จะเป็นเครื่องดื่นที่น้องเมดจะมาเชคๆกันต่อหน้าคุณ

 

 

ที่เด็ดมากก็คือ Giant Menu .. ซึ่งเป็นเมนูพิเศษชนิดกันกันสามคน ราคาจะมหาโหดหน่อยนึง แต่ก็จะมีเซอร์วิสพิเศษมาด้วย นั่นก็คือ

• ได้ถ่ายรูปกับน้องเมด (กริ๊ดดด) 
• ต่ออายุเวลาแห่งความฝันอีก 30 นาที 
• และกิจกรรมพิเศษ น้องเมดจะมาทำ โมเอะ โมเอะ บีม ใส่อาหารจัมโบ้ไซส์ของเราให้มันอร่อยขึ้น

การจะเรียกน้องเมดมาบริการที่โต๊ะ คุณจะใช้ท่าธรรมดาไม่ได้นะครับ!!
คุณจะต้องทำท่าน่ารักๆเหมือนแมว แล้วก็ร้องเรียก เนี้ยวๆ .. น้องเมดถึงจะมาครับ 

 

สรุปบรรยายความรู้สึกกับร้าน Maidreamin

• ราคาอาหารค่อนข้างโหด ขนาดคิด services charge แยกแล้ว ราคายังถือว่าโหดมากถ้าเทียบกับคุณภาพของอาหาร เรียกได้ว่า อร่อยแต่ยังไม่ถึงใจก็ได้ครับ
• การตกแต่งในร้านยังไม่ค่อยสุด เมื่อเทียบกับที่ญี่ปุ่น โต๊ะ / เก้าอี้ คุณภาพไม่ค่อยดีเท่าไหร่ อันนี้ก็น่าจะเพราะผู้รับเหมาก่อสร้างไทยด้วยแหละ
• เมนูยังไม่หลากหลาย เห็นบอกว่าบางเมนูยังไม่มีให้บริการเพราะพึ่งเปิดร้าน 
• น้องเมดบางคนยังมีอาการงงๆ ในการรับออเดอร์ลูกค้าอยู่บ้าง น่าจะเพราะยังใหม่กันอยู่ (สู้ๆ)
• มีของที่ระลึกขายด้วย ราคาสูงเอาเรื่องเหมือนกัน แต่มี CD เพลงจากสาขาใหญ่ที่ญี่ปุ่นมาขายด้วยในราคา 990 บาท อยากได้จังไม่รู้เป็นยังไง
• ตัวร้านค่อนข้างแคบไปหน่อยนึง จนงงว่า จะจัด Live กันได้จริงๆหรอ
• แต่น้องเมดโคตรน่ารักเลยครับ น่ารักชิปหาย น่ารักแบบอยากจะกลับไปนั่งในเร็ววัน
   Credit: http://www.jidapa.in.th/food/maidreamin/

เหตุผล 7 ข้อที่ชาวต่างชาติยกให้เป็น “เสน่ห์” ของสาวญี่ปุ่น

Music : Gee - Snsd 

หากพูดถึงสาวที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในกลุ่มชาวต่างชาติโดยเฉพาะผู้ชายทั้งหลายแล้วล่ะก็ ต้องยกให้สาวญี่ปุ่นแน่นอน แต่ว่า เพราะอะไรกันล่ะ? อะไรคือเสน่ห์ดึงดูดของสาวๆญี่ปุ่นที่ชาวต่างชาติเทคะแนนใจให้มากมายขนาดนี้กันนะ

วันนี้ anngle จะพาคุณไปค้นหาความลับ 7 ข้อของสาวญี่ปุ่นที่ดึงดูดหนุ่มๆชาวต่างชาติ โดยอ้างอิงเนื้อหาจากเว็บไซต์ต่างประเทศ HealthGuidance ถ้าพร้อมแล้วไปชมกันเลย…

1. เป็นผู้ฟังที่ดี

สาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีอารมณ์ขันและตั้งใจฟังสิ่งที่คู่สนทนาเล่าให้ฟังอย่างสนุกสนาน ถ้าเป็นแบบฉบับสาวญี่ปุ่นในอดีตจะขรึมและสง่า อยู่ภายใต้อำนาจของฝ่ายชาย แต่ในปัจจุบันแทบจะไม่มีแล้ว ซึ่งหากเทียบกับสาวต่างชาติแล้วล่ะก็ สาวญี่ปุ่นเป็นผู้ฟังที่ดีมากทีเดียว

การเป็นผู้ฟังที่ดีนั้น ถือเป็นเสน่ห์ที่ดีมากเพราะทำให้บทสนทนาไม่น่าเบื่อและทำให้อีกฝ่ายพอใจกับสิ่งที่ตนเองอยากจะเล่าให้ฟัง แต่อย่างไรก็ตาม สาวญี่ปุ่นก็อาจจะหลงคารมฝ่ายชายได้ง่ายหรืออาจจะถูกหลอกได้นะจ๊ะ…

2. ตัวเล็กน่ารัก

รูปร่างของสาวญี่ปุ่นนั้นเล็กกว่าสาวชาวยุโรปมาก หรือแม้เทียบกับสาวเอเชียด้วยกันเองก็เรียกได้ว่าโดยเฉลี่ยนั้นสาวญี่ปุ่นผอมที่สุด ซึ่งเห็นได้ชัดว่าผู้ชายส่วนใหญ่นั้นชอบผู้หญิงตัวเล็กน่ารักตรงกับคุณสมบัติของสาวญี่ปุ่นเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังมีหนุ่มต่างชาติบอกเหตุผลอีกว่า แต่งงานกับสาวญี่ปุ่นก็ดีเพราะสาวญี่ปุ่นแม้แต่งงานไปก็ไม่ค่อยมีใครอ้วนขึ้น ยังคงตัวเล็กน่ารักอยู่เสมอ

3. ผิวเนียนสวย

เป็นที่ยอมรับกันทั่วโลกเลยว่า สาวญี่ปุ่นนั้นผิวพรรณสวยเป็นเลิศถึงขนาดที่พูดกันว่าไม่ยอมแก่กันเลยทีเดียว ปกติแล้วเมื่อเข้าหน้าร้อนเรามักจะเห็นชาวต่างชาตินอนอาบแดดกันมากแต่สาวญี่ปุ่นจะไม่ค่อยทำกัน

ดังนั้น สาวญี่ปุ่นจึงมีผิวพรรณขาวสวย แก่ยาก อีกทั้งรอยเหี่ยวย่นและฝ้ากระยังขึ้นยากอีกด้วย

4. หน้าตามีเอกลักษณ์

หน้าตาของสาวญี่ปุ่นนั้นสังเกตไม่ยาก แค่มองดูก็คงพอจะเดาได้ หากรู้สึกว่า มองแล้ว น่ารัก ใสๆ เหมาะกับความเป็นญี่ปุ่นก็จะนึกถึงคนญี่ปุ่นขึ้นมาทันที

ในสายตาของชาวต่างชาตินั้น เสน่ห์ของสาวญี่ปุ่นจะอยู่ที่ว่า เธอมีหน้าตาที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนชาติใด ไม่ได้มีหน้าตาเป็นลูกครึ่ง แต่เป็นแบบญี่ปุ่นแท้ๆ

5. ผมตรงเงางาม

ในมุมมองของชาวต่างชาตินั้น ทรงผมของสาวเอเชียที่อยู่ในความคิดของพวกเขาก็คือ ผมตรงเงางาม　ซึ่งเป็นทรงผมที่ชาวต่างชาติต่างก็อิจฉาและปรารถนาที่จะมีกัน จึงเรียกได้ว่าเป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่น่าดึงดูดของสาวญี่ปุ่นเลยทีเดียว

อย่างไรก็ตาม ชาวต่างชาติบางคนพอได้มาสัมผัสประเทศญี่ปุ่นแล้วผิดหวังก็มี เพราะว่าสาวญี่ปุ่นบางคนก็ย้อมผมสีกันเยอะ ทำให้ไม่น่ามองสักเท่าไหร่ในสายตาของชาวต่างชาติ

6. แฟชั่น

ว่ากันว่า คนญี่ปุ่นนั้น จับแต่งนิดแต่งหน่อยก็ดูดีขึ้นมาได้ง่ายทีเดียว อีกทั้งสาวญี่ปุ่นยังรักแฟชั่น ใส่ใจภาพพจน์ภายนอกและชอบแต่งกายให้สะอาดสะอ้านอยู่เสมอ

นอกจากแฟชั่นแล้ว ยังใส่ใจในเรื่องของการเลือกซื้อสินค้า อาหารการกิน ไปจนกระทั่งการเลือกซื้อไวน์อย่างพิถีพิถันอีกด้วย

7. รสนิยมการเลือกคู่

ปกติแล้วสาวญี่ปุ่นจะไม่ได้เลือกคู่ครองจากรูปลักษณ์ภายนอกหรือความแข็งแกร่งของชายหนุ่ม แต่เธอจะเลือกจากความก้าวหน้าของหน้าที่การงานและความเฉลียวฉลาดในการใช้ชีวิต

ถึงแม้จะเป็นผู้ชายที่คุยไม่เก่งหรือไม่หล่อเท่ห์บาดใจ แต่ถ้าหากมีการงานที่ดีและมีผลงานความสำเร็จที่น่าชื่นชม ก็ได้ใจสาวญี่ปุ่นไปเต็มๆแล้วจ้า

Credit : http://anngle.org/th/j-culture/culture/japanesegirl.html

แต่งริมฝีปากสวย…ด้วยลิปมหัศจรรย์แบบญี่ปุ่น

Music : Lost - Nicole (Kara)

อุปกรณ์ชนิดนี้ก็คือ “Lip Tattoo” คำจำกัดความของ Tattoo นั้น คนส่วนมากคิดว่าเป็นรอยสักอย่างเดียว แต่ความจริงแล้วแผ่นแปะที่ต้องเอาน้ำมาลูบให้เกิดลายคล้ายการสักบนตัวเราก็เรียกว่า Tattoo และ Tattoo แบบนี้จะต้องระวังอย่างมากเวลาใช้…..

วัยรุ่นปัจจุบันนี้ก็นิยมหาซื้อเครื่องแต่งหน้าแปลกๆใหม่ๆมาใช้ตามไอดอลหรือนักร้องที่ตัวเองชอบ โดยผู้นำแฟชั่นปัจจุบันนั้นคงหนีไม่พ้น Lady Gaga ซึ่งทุกคนรู้จักดี และอุปกรณ์แต่งหน้าที่สำคัญที่สุดก็คือ “ลิปสติก” ไม่ว่าจะเป็นแบบลายจุดหรือลายเสือดาวก็สามารถทำให้ใบหน้าดูเด่นขึ้นและเปลี่ยนบุคลิกได้ด้วย ถ้าไม่เชื่อไปลองใช้กันดู

วิธีใช้ก็ง่ายแสนง่าย ตัดแผ่น Tattoo ออกมาให้เป็นรูปปากของเราหลังจากนั้นนำไปติดที่ริมฝีปาก เอาสำลีชุบน้ำมากดไว้ที่แผ่นประมาณ 10 วินาทีแล้วลอกแผ่น Tattoo ออก เป็นอันเสร็จ Tattoo นี้ก็ใช้ได้หลากหลายเทศกาลไม่ว่าจะเป็นวาเลนไทน์ ฮาโลวีน หรือปาร์ตี้วันเกิดเพื่อน 1 กล่องนั้นมี 3 แผ่น ถ้าคิดว่ามีมากเกินไปใช้แล้วเบื่อ ก็สามารถนำไปแลกกับเพื่อนๆได้

Credit : http://anngle.org/th/j-lifestyle/fashion-culture/lip-tattoo.html

จุดอ่อนของหนุ่มญี่ปุ่น…ที่ทำให้จีบได้แบบง่ายๆ!!

Music : Winter Maic - Kara

สำหรับสาวไทยที่หลงใหลในตัวหนุ่มญี่ปุ่นไม่ว่าจะเป็นหน้าตา ท่าทาง การแต่งตัว หรือแม้แต่นิสัยพื้นฐานแล้วนั้น ถึงแม้ว่าคุณจะพูดภาษาญี่ปุ่นได้ก็นับว่ายากมากถ้าจะเข้าไปจีบตรงๆ!! แต่ถ้าคุณรู้ถึงจุดอ่อนของพวกเขาละก็ การจีบหนุ่มญี่ปุ่นก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป…

ก่อนอื่นนั้นเราต้องทราบถึงจุดอ่อนของชนชาติญี่ปุ่นเสียก่อนก็คือ นิสัยที่เป็นคนตรงต่อเวลาและเนี๊ยบนั่นแหละ!! หลายคนอาจเถียงว่า “นั้นมันจุดแข็งนี่นา” ก็ใช่แล้ว เราต้องเปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาสไง!! ด้วยความที่เป็นคนพิถีพิถันในการเลือกของที่ดีที่สุดให้กับตัวเองของหนุ่มญี่ปุ่น ที่สามารถดูได้จากการแต่งตัวไม่ว่าชุดทำงานหรือชุดไพรเวทแล้วนั้น ก็พอจะทราบได้บ้างว่าหนุ่มญี่ปุ่นนั้นติดแบรนด์เนมเหมือนกัน!!!

วันนี้ทาง anngle จึงนำผลสำรวจว่าแบรนด์ที่หนุ่มญี่ปุ่นรุ่นอายุ 20-30 นั้นชอบมากที่สุดมีอะไรบ้าง?? มาให้แฟนๆได้ดูกัน!!

อันดับ 1 Paul Smith
พูดถึง Paul Smith แล้วคงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะว่าแบรนด์นี้ก็เข้ามาตีตลาดในเมืองไทยอยู่ไม่น้อย

อันดับ 2 Chrome Hearts
Chrome Hearts นั้นเป็นแบรนด์ที่เน้นไปที่สินค้าจำพวกเครื่องประดับต่างๆที่ทำจากเงินและมีดีไซน์เป็นเอกลักษณ์

อันดับ 3 Beams
Beams นั้นเน้นสินค้าพวกเสื้อผ้าสีเอิร์ธโทนที่ใส่ง่ายๆ แต่ดูดีมีสไตล์ นอกจากนี้ก็มีสินค้านำเข้าอีกหลายประเภทด้วย

อันดับ 4 United Arrows
United Arrows นั้นขายสินค้าจำพวกเสื้อผ้าและเครื่องประดับชิ้นเล็กๆที่เข้าชุดกัน

อันดับ 5 Takeo Kikuchi
Takeo Kikuchi นั้นเป็นแบรนด์ที่สร้างขึ้นสำหรับแฟชั่นของผู้ชาย ซึ่งออกแบบให้มีกลิ่นอายของอารยธรรมอังกฤษ

อันดับ 6 Ships
สินค้าของ Ships นั้นจะเน้นไปที่สีสัน ที่ตรงกับคอนเสปว่า Play with Colors!!

อันดับ 7 Burberry Black Label
Burberry Black Label นั้นเป็น sub brand ของ Burberry ที่จะทำเสื้อผ้าและเครื่องประดับต่างๆออกมาในโทนสีดำ ที่ดูเท่ไม่น้อยเลย

อันดับ 8 Levi’s
แบรนด์สำหรับคนชอบยีนส์นี้ก็คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก เพราะคนไทยส่วนมากก็รู้จักมาตั้งแต่รุ่นแม่แล้ว

อันดับ 9 Nike
Nike ก็เช่นกัน ที่เป็นแบรนด์คุ้นตาคนไทยเป็นอย่างดี เน้นเจาะตลาดคนเล่นกีฬา

อันดับ 10 Polo Ralph Lauren
Polo Ralph Lauren ก็เช่นกันที่ดังในหมู่วัยรุ่นไทยมาได้พักใหญ่ๆแล้ว ด้วยดีไซน์และสีสันที่เป็นเอกลักษณ์ จึงทำให้ก้าวเข้ามาอยู่ในท็อปเท็นได้ไม่ยาก

เป็นอย่างไรกันบ้างกับแบรนด์ที่หนุ่มๆญี่ปุ่นชอบกัน? สาวไทยเห็นกันอย่างนี้แล้วคงจะต้องแปลงกายเป็นแม่บุญทุ่มกันแน่ๆ แต่ในความเป็นจริงถ้าเขาชอบเราอยู่แล้วละก็ ไม่ว่าเราจะซื้ออะไรให้ อีกฝ่ายคงจะดีใจไม่น้อยเลย… ไม่เห็นจะต้องเป็นแบรนด์เนมเสมอไป จริงไหม??

credit : http://anngle.org/th/j-lifestyle/fashion-culture/brandname-ranking.html